คุณเคยมีเพื่อนที่ตอนโสดนั้นทำตัวเกกมะเหรกเกเร เที่ยวไปเรื่อย xxxสาวไปทั่ว ไม่เป็นโล้เป็นพาย พึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอหลังจากมีภรรยามีลูกแล้วนั้นถึงกับเปลี่ยนเป็นคนละคนจนจำไม่ได้เลยมั้ยครับ จากนิสัยสนใจแต่เรื่องxxxโดยไม่สนหน้าตาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนที่เอาการเอางานกว่าเดิม ซึ่งเคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าการเป็นพ่อคนนั้นสามารถเปลี่ยนนิสัยผู้ชายได้อย่างไร ซึ่งมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เจาะลึกเข้าไปยังฮอร์โมน และสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ปกครองซึ่งพบว่าสมองของพ่อและแม่มีความใกล้เคียงกันเรื่องการดูแลลูก ทั้งคู่จะเจอการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่คล้ายกันทำให้มีสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ว่าสมองของพ่อก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
โดยการดูแลลูกนั้นจะเปลี่ยนแปลงแพทเทิร์นด้านอารมณ์และความรู้ที่คล้ายคลึงกับคุณแม่ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่บอกว่าสมองของพ่อและแม่เหมือนกันถ้าทั้งคู่มีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก โดยนักวิจัยได้ดูการทำงานของสมองผู้ปกครอง 89 คู่ โดยให้พวกเขาดูวิดีโอซึ่งจะมีรูปลูกอยู่ด้วยในบางฉาก การทดลองนี้ไม่ได้มีแต่คู่ทดลองชายหญิงเท่านั้นแต่ยังมีพ่อแม่ที่เป็น LGBT อยู่ด้วย สมองของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดแสดงให้เห็นการทำงานของเครือข่ายสมองที่เชื่อมโยงกับการประมวลผลและความเข้าใจทางสังคม จนได้ผลลัพธ์ออกมาดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นนั่นเองครับ และยังมีอีกผลวิวัยหนึ่งที่บอกด้วยว่าผู้ชายเมื่อกลายเป็นพ่อนั้นฮอร์โมนของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน โดยฮอร์โมนเอสโตรเจน อ็อกซิโทซิน โพรแลคซิน และกลูโคสโคติคอยส์นั้นจะสูงขึ้น ซึ่งการที่พ่อมีความผูกพันกับลูกนั้นช่วยให้ใจเย็นลง ไม่เกรี้ยวกราด และอยากปกป้องลูกมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อฮอร์โมนอ็อกซิโทซินเพิ่มขึ้นจะทำให้พฤติกรรมในการดูแลลูกเพิ่มตามไปด้วย และเมื่อพ่อกอดหรือเล่นกับลูกบ่อย ๆ ก็จะทำให้การพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกเป็นไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเองครับ
และสุดท้ายก็คือสัญชาตญาณความเป็นพ่อนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากสัญชาติญาณความเป็นแม่เลย เพราะว่าพ่อนั้นจะเซนซิทีฟต่อเสียงลูกมาก จะสามารถเข้าใจในเสียงของลูกได้ว่าลูกต้องการอะไร ซึ่งมีผลการวิจัยที่นำคุณพ่อ 27 คนและคุณแม่ 29 คนมาระบุเสียงของทารก เฉลี่ยคนที่สามารถตรวจจับเสียงร้องของทารกได้ผลออกมาว่าผู้ชายนั้นสามารถทำได้ดีเท่า ๆ กับผู้หญิงเลยล่ะครับ จึงอาจตอบข้อสงสัยของหลาย ๆ คนได้แล้วว่าทำไมเมื่อมีลูกแล้วนิสัยของผู้ชายหลาย ๆ คนจึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้นะครับ